จากการเกิดปรากฏการณ์ จันทรุปราคา เมื่อคืนวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวไทยเป็นจำนวนมาก เพราะการเกิด จันทรุปราคา ในครั้งนี้ นอกจากเกิดขึ้นในวันสำคัญอย่าง วันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่แล้ว ยังถือเป็นการเกิดราหูซ้อนราหูอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม โหรและบรรดาหมอดูชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทย ได้ออกมาทำนาย และ แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดวงชะตาหลังจากการเกิดปรากฏการณ์ จันทรุปราคา ในครั้งนี้ว่า ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564 มีสองราศีที่อาจจะต้องระวังเรื่องสุขภาพรวมไปถึง อุบัติเหตุเป็นพิเศษ อาจจะอันตรายถึงขั้นเลือดตกยางออกกันเลยทีเดียว นั้นคือราศี พฤษภ และ ราศีพิจิก
โดยเริ่มกันที่ ราศีพฤษภ ถึงแม้ว่าการเกิดปรากฏการณ์ จันทรุปราคา จะผ่านไปแล้ว แต่สิ่งที่ชาวราศีพฤษภ ซึ่งเกิดระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน จะต้องระวังกันเป็นพิเศษ คือเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บมาเป็นอันดับแรก ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะคนที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคประจำตัวอยู่แล้ว อาจต้องหมั่นกลับมาดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อาจจะต้องผ่าตัด หรือต้องเข้าโรงพยาบาล เน้นเสริมด้วยการสวดมนต์ ไหว้พระ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองด้วย ยิ่งช่วงสัปดาห์สุดท้าย บางคนอาจจะส่งผลกระทบในเรื่องของคดีความ อาจถึงขั้น ฟ้องร้อง ต้องขึ้นโรง ขึ้นศาล อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงคำทำนายของราศีพฤษภ ช่วงปลายเดือน พฤษภาคม เท่านั้น หลังจากนี้จะมีเรื่องดีเกิดขึ้นกับชาวพฤษภ แน่นอน แค่อดทนรออีกนิด
ต่อมา ราศีพิจิก เกิดระหว่างวันที่ 17 พฤษจิกายน – 15 ธันวาคม เป็นอีกราศี ที่ปรากฏการณ์ จันทรุปราคา ส่งผลกระทบแรงเช่นเดียวกัน แต่ผลกระทบน้อยกว่า ราศีพฤษภ โดยชาวราศีนี้จะต้องระวัง ในเรื่องของคู่รัก คู่ครอง ช่วงนี้คำพูดของชาวราศีพิจิก อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตรัก การสื่อสารอาจเกิดความเข้าใจผิดกัน หรืออาจจะมีปากเสียงกันขั้นรุนแรง จึงควรที่จะหลีกเลี่ยงเมื่อมีอารมณ์ร้อนจึงจะเป็นการดีที่สุด ในส่วนของเรื่องสุขภาพ ก็ไม่น่าไว้วางใจนัก คนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือคนที่มีโรคประจำตัว ส่วนการขับรถ หรือการเดินทางก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในช่วงสัปดาห์ปลายเดือน หรือหากต้องเดินทางไปยังสถานที่แปลกๆ ก็แนะนำว่าอย่าเพิ่งเดินทางไปดีที่สุด นอกจากนี้ กิจกรรมหวาดเสียวหรือ กิจกรรมผาดโผนที่อาจจะส่งผลต่อความอันตราย ก็แนะนำว่าควรหยุดไว้ก่อน เพราะในยามที่ดวงแรง อาจจะส่งผลให้เรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
ในช่วงนี้ถึงแม้ ราศีพฤษภ และ ราศีพิจิก จะได้รับผลกระทบที่รุนแรง แต่ก็ยังมีวิธีแก้ คือการหมั่นสวดมนต์ ภาวนา ทุกๆคืน หากผ่านเดือนพฤษภาคม ไปแล้วก็จะมีสิ่งดีเข้ามาหาทั้งสองราศีแน่นอน
หลังจากพูดถึงเรื่อง ดวงชะตากันไปแล้ว ต้องขออธิบายการเกิด จันทรุปราคา ให้เข้าใจว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จากการที่ ดวงอาทิตย์ โลก และ ดวงจันทร์ นั้นได้โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน เหตุการณ์นี้จะสามารถรู้ได้ล่วงหน้า แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก และจะเกิดขึ้นในวันที่ดวงจันทร์เต็มดวง หรือช่วง 15 ค่ำ ปรากฏการณ์เกิดขึ้นเมื่อ ดวงจันทร์ ได้โคจรเข้าไปในเงาของโลก ซึ่งจะทำให้ ดวงจันทร์ เกิดการเว้าแหว่ง และหากดวงจันทร์โคจรเข้าไปในเงามืดของโลกพอดี จะเกิดเป็นปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ซึ่งมักจะเห็นเป็นพระจันทร์สีเลือด ซึ่งจะมีสีน้ำตาลและสีแดงระเรื่อ
ขณะที่เงาของโลกที่ที่สะท้อนไปยังดวงจันทร์ ก็จะมีเงามืด โดยเป็นส่วนที่มืดที่สุด เกิดขึ้นอยู่บริเวณกลางดวงจันทร์ และ เงามัว ซึ่งจะอยู่รอบๆเงามืดบนดวงจันทร์อีกที
นอกจากนี้ จันทรุปราคา ที่เกิดขึ้น ยังมีถึง 4 ชนิด ซึ่งแตกต่างกันไป เริ่มจากชนิดแรก จะเรียกว่า จันทรุปราคาเต็มดวง จะเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ ถูกเงามืดของโลก ได้บดบังไปเต็มดวง ซึ่งหลายๆครั้งจะเห็นเป็น พระจันทร์สีเลือด และจะมีแสงสลัวๆ
จันทรุปราคาบางส่วน จะเกิดขึ้นเมื่อ ดวงจันทร์ เคลื่อนที่ผ่านเงามืด ซึ่งจะเห็นได้บ่อย เราสามารถเห็นดวงจันทร์เป็นเพียงเสี้ยว มีเว้าแหว่ง จากการถูกบดบัง
จันทรุปราคาเงามัว เกิดจากที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านเงามัวของโลก เราจะสามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้แบบเต็มดวงอยู่ แต่ความสว่างจะน้อยลง จันทรุปราคาเงามัว จะหาดูได้ยาก ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
จันทรุปราคาเงามัวเต็มดวง ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยเช่นเดียวกัน โดยดวงจันทร์จะเคลื่อนที่เข้าไปยังเงามัวของโลกแบบเต็มดวง แต่ยังไม่ได้เคลื่อนที่เข้าไปยังเงามืด ส่งผลให้ดวงจันทร์ลดความสว่างลงทั้งดวง และฝั่งที่ใกล้กับเงามืด ก็จะมีความแสงสว่างน้อยกว่าอีกฝั่งด้วย
เหตุใด ดวงจันทร์ในคืน จันทรุปราคา ถึงเป็นสีเลือด? สีของดวงจันทร์ ในคืนที่เกิด จันทรุปราคา ส่วนใหญ่ มักจะเป็น สีน้ำตาล หรือค่อนไปทางสีแดง รวมไปถึงสีเหลืองอ่อนๆ แต่เมื่อรวมๆกันแล้ว ก็จะคล้ายๆกับสีเลือด สาเหตุนั้นเกิดมาจาก แสงของดวงอาทิตย์บางส่วน โดยจะมี แสงสีส้ม และ แสงสีแดง ซึ่งเป็นแสงที่สามารถเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศของโลกได้ ทำให้เกิดการหักเหของแสง และเดินทางไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ ส่งผลให้ ดวงจันทร์ กลายเป็นสีเลือด หรือ สีแดง, สีน้ำตาล อย่างที่ทุกคนเห็น
อย่างไรก็ตาม บนโลกนี้ จะสามารถมองเห็น ดวงจันทร์ในคืนที่มี จันทรุปราคา ที่แตกต่างกันออกไป บางครั้ง อีกซีกโลกอาจจะเห็นเพียงครึ่งซีก แต่อีกฝั่งซีกโลกอาจจะเห็นแบบเต็มดวง ซึ่งขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแต่ละโซนด้วย
สำหรับจันทรุปราคา ถือว่าเกิดขึ้นบ่อย และสามารถรับรู้ วันเวลาล่วงหน้าที่จะเกิดได้ จึงเป็นปรากฏการณ์ที่น่าติดตาม และเป็นคืนที่ดวงจันทร์ สวยมากๆอีกคืนหนึ่ง