ในปัจจุบันนี้ สถานการณ์ฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ยังอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงเลยนะคะ โดยล่าสุด ในกรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นพื้นที่สีแดงนะคะ พบเฉลี่ย 3 เดือน (มิถุนายน,กรกฎาคม,สิงหาคม) พบ 40 ราย พีคสุด 3 วันที่ผ่านมาพบแล้ว 10 ราย กันเลยนะคะ ตอนนี้ กทม. กำลังทำการเร่งสอบสวนโรคอยู่ค่ะ
โรคฝีดาษลิงคืออะไร
โรคฝีดาษลิง หรือไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) เป็นโรคที่ใกล้เคียงกับโรคอีสุกอีใส แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ผู้ป่วยจะมีไข้ร่วมกับมีตุ่มผื่นตุ่มหนองทั่วตัว และต่อมน้ำเหลืองโต เกิดจากไวรัส Othopoxvirus ซึ่งเป็นไวรัสที่เกิดโดยธรรมชาติ พบในตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ
กรมประชาสัมพันธ์ เผย นางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในกรุงเทพมหานคร ว่า จากข้อมูลปีที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน พบว่ายอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตลอดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คือ เดือนมิถุนายน กรกฎาคม และในเดือนสิงหาคม พบผู้ป่วยเฉลี่ยเดือนละประมาณกว่า 40 ราย และจากการรายงานของสำนักอนามัยล่าสุด (21 – 23 สิงหาคม 2566) พบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 10 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนโรค ลงพื้นที่ติดตามคนใกล้ชิด ตรวจสอบและทำความสะอาดพื้นที่
สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมควบคุมโรค และโรงพยาบาลทุกแห่งจะมี
มาตรการในการเฝ้าระวังมากขึ้น โดยมีมาตรการดังนี้ค่ะ
- หากมีผู้ป่วยอื่น ๆ ในโรงพยาบาลมีอาการคล้ายคลึง กับอาการเริ่มต้นของโรคฝีดาษวานร จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที
- หากพบว่าติดเชื้อ และจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของผู้ติดเชื้อ
- สำรวจตรวจหาเชื้อจากผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย และชุมชนที่อาศัย
เบื้องต้นกำหนดให้ใช้น้ำยาเฉพาะโดยตรง ในการล้างพื้นที่เสี่ยงที่อาจมีการติดเชื้อ อาทิ ห้องน้ำ ห้องนอน จากนั้นใช้ผงซักฟอกล้างซ้ำ
ส่วนขั้นตอนการปฏิบัติตน
- กรณีมีอาการเริ่มต้นให้รีบพบแพทย์ เนื่องจากระยะฟักตัวของโรคค่อนข้างใช้เวลานานกว่า 1-2 อาทิตย์
- หากไม่รักษาอาการจะแย่ลงเรื่อย ๆ
อีกทั้งยังแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยง หรือตรวจสอบตนเอง และคู่นอนก่อนการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง เพื่อความปลอดของทั้ง 2 ฝ่ายนะ่นเองค่ะ
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์ ,รูปจากคณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล