RCS ย่อมาจาก Rich Communication Services เป็นมาตรฐานกลางการส่งข้อความใหม่ขององค์กรกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสาร (GSM Association) เหมือนกับที่ Bluetooth และ WiFi เป็นมาตรฐานกลางการเชื่อมต่อที่มีองค์กรอย่าง Bluetooth SIG และ WI-Fi Alliance คอยกำกับดูแล โดย RCS ได้พัฒนาต่อยอดมาจาก SMS และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008
RCS คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่ง
- ข้อความเสียง (Voice Message
- ข้อความ (Instant Messaging)
- แบ่งปันไฟล์ หรือแม้แต่ไลฟ์วิดีโอ ได้
โดยเราจะเห็นได้ว่า คุณสมบัติในการทำงานของ RCS นั้น เหนือกว่าเทคโนโลยีเดิมอย่าง SMS/MMS เป็นอย่างมากเลยทีเดียวนะคะ
เนื่องจาก SMS/MMS ยังคงเป็นทางเลือกของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นระบบ RCS จึงอาจไม่ได้ตั้งค่าเปิดใช้งานเอาไว้ให้ หากสมาร์ทโฟนของเรารองรับ ก็สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยตนเองง่าย ๆ เลยนะคะ
ทั้งนี้ Rich Communication Services (RCS) ในปัจจุบันนี้ จะรองรับแค่ระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น เนื่องจากทาง iPhone ได้เลือกพัฒนา iMessage ขึ้นมาใช้งานแทน แต่ถ้าผู้ใช้ iPhone ต้องการใช้งาน RCS จริง ๆ ก็ต้องอาศัย แอปพลิเคชันบุคคลที่สาม (3rd-Party Application) เข้ามาช่วย เช่น แอป Beeper เป็นต้นค่ะ
หากต้องการจะเปิดใช้งานระบบ RCS บนมือถือ Android มีสิ่งที่ต้องการเพียงแค่อุปกรณ์ที่จะใช้ RCS ต้องใส่ซิมการ์ด และจะต้องเป็น Android เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป และใช้แอป Google Messages เป็นแอปหลักในการรับข้อความ ทั้งนี้จะมีเพียงมือถือบางแบรนด์ที่ใส่ฟีเจอร์ RCS มาพร้อมกับแอปข้อความของระบบ เช่น Samsung
แต่อย่างไรก็ตามจะมีบางฟีเจอร์ที่แอปข้อความของระบบจะไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถ้าอยากใช้งานฟีเจอร์แบบครบ ๆ และได้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ RCS เมื่อมีการอัปเดต แนะนำให้ตั้ง Google Messages เป็นแอปรับข้อความหลัก จึงจะใช้ฟีเจอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ส่วนวิธีการเปิดใช้งาน RCS มีดังนี้
• ติดตั้งแอป Google Messages พร้อมตั้งค่าแอปให้เป็นแอปรับข้อความหลัก
• กดที่รูป Profile ของตัวเองด้านบนขวามือ
• เลือกเมนู “ตั้งค่า Messages”
• เลือกเมนู “แชท RCS”
• กดปุ่ม “ยืนยันหมายเลขของคุณ” พร้อมกรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการใช้งาน
• รอสถานะขึ้นว่า “เชื่อมต่อเสร็จสิ้น” ก็พร้อมใช้งานทันที
ความแตกต่างระหว่าง RCS กับ iMessage
RCS และ iMessage ต่างก็เป็นโปรโตคอลด้านการสื่อสารที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานแทน SMS/MMS แต่ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ
- iMessage ถูกคิดค้นขึ้นมาโดย Apple และใช้งานได้แค่บนอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น ซึ่งหากดูตามไทม์ไลน์ iMessage นั้นเปิดตัวเป็นครั้งแรกใน iOS 5 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) และในปีถัดมาก็ได้มีการประกาศว่ามีผู้ใช้ iMessage มากถึง 300,000,000,000 ครั้ง
- ส่วน RCS นั้น สามารถทำงานได้กับสมาร์ทโฟนบางรุ่น และเครือข่ายของผู้ให้บริการที่รองรับเท่านั้น ทำให้การถูกนำมาใช้งานเป็นไปอย่างล่าช้า โดย Samsung เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายแรกที่รองรับ RCS โดยวางจำหน่ายที่ยุโรปในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2015 ทางด้าน Google ก็เพิ่งจะทำให้แอป Messages ซึ่งเป็นระบบ SMS/MMS ของระบบปฏิบัติการ Android รองรับ RCS ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2561) นั่นเองค่ะ
ปัญหาก็คือ iMessage ไม่รองรับการสื่อสารร่วมกับ RCS ซึ่งทาง Google ก็พยายามเรียกร้อง Apple ให้อัปเดต iMessage ให้รองรับ RCS เพื่อให้ทั้งสองระบบปฏิบัติการสามารถส่งข้อความหากันได้ง่ายขึ้น แต่ทาง Apple อย่างที่รู้กันดีว่า แผนธุรกิจก็คือทำให้ผู้ใช้อยู่ในระบบนิเวศของตนเองให้ได้มากที่สุด ซึ่ง iMessage ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยดึงดูดให้ผู้ใช้ต้องการซื้อ iPhone มากขึ้นนั่นเองค่ะ
ตารางเปรียบเทียบ ความแตกต่างระหว่าง RCS กับ iMessage (RCS and iMessage Comparison Table)
ที่มา : ribboncommunications.com , en.wikipedia.org , support.google.com , www.sinch.com , www.vintag.es , www.nfon.com , www.messagedesk.com , www.androidauthority.com , www.makeuseof.com , www.paubox.com , en.wikipedia.org