เมื่อพูดถึง ราหูอมจันทร์ เชื่อว่าหลายๆคน คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยมีหลายชื่อเรียก ไม่ว่าจะเป็น จันทรุปราคา, จันทรคราส, ราหูอมจันทร์ หรือบางพื้นที่ในประเทศไทยจะเรียกว่า กบกินเดือน คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อ ดวงจันทร์, ดวงอาทิตย์ และ โลก นั้นโคจรมาอยู่แนวระนาบเดียวกัน ถึงแม้ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่โดยทั่วไปแล้ว ในประเทศไทยนั้น ก็มีหลายความเชื่อ โดยส่วนใหญ่จะมองว่าเป็น ลางร้าย โดยเฉพาะช่วงหลังที่ผ่านมา จากการเกิด จันทรุปราคา สีแดงเข้ม หรือบางครั้งจะค่อนไปทาง สีน้ำตาลแดง และมีการเรียกชื่อว่า ซูเปอร์มูนสีเลือด
อย่างไรก็ตาม แม้เหตุการณ์ ราหูอมจันทร์ จะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดมาจากธรรมชาติ แต่คนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ นั้นมองว่าปรากฏการณ์นี้เป็นเหมือนลางบอกเหตุ ที่จะเกิดเรื่องราวไม่ดีขึ้น อาจจะต่อตนเอง หรือ บ้านเมือง ส่วนวิธีการแก้เคล็ดก็จะทำแตกต่างกันไปตามแต่ละความเชื่อของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น การเคาะต้นไม้ การเคาะสิ่งของต่างๆ เพื่อให้เกิดเสียงขึ้น หรือจะเป็นการเคาะกะละมัง กระป๋อง ส่วนคนท้องต้องนำเข็มกลัดมาติดไว้ที่เสื้อ ช่วงหลังๆที่ผ่านมา หลังจากที่มีคนรุ่นใหม่ เพิ่มมากขึ้น และโลกก็เข้าสู่ยุคใหม่ ความเชื่อเหล่านี้ก็ค่อยๆเริ่มหายไป แต่ก็ไม่ได้หายไปเลยทีเดียว เพราะตามพื้นที่ในชนบท เรื่องเหล่านี้ยังมีให้เห็นอยู่ และเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
ราหูอมจันทร์กับเรื่องดวงชะตา
นอกจากเรื่องความเชื่อสมัยโบราณแล้ว สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยถือว่ามีความเชื่อกันในเกือบทุกเพศ ทุกวัย คือเรื่องดวงชะตา หลายๆครั้งที่เกิดปรากฏการณ์ ราหูอมจันทร์ ก็จะมีหมอดู หลายๆคนออกมาแนะวิธีแก้เคล็ด หรือวิธีบูชา ในวันที่เกิดเหตุ จันทรุปราคา หรือ ราหูอมจันทร์ เพราะเชื่อว่าจะส่งผลร้ายกับบางราศี และ จะส่งผลดีกับบางราศี ซึ่งการเกิดเหตุการณ์ ราหูอมจันทร์ครั้งต่อไป มีความเชื่อกันว่าเป็นวันแรงมาก หมอดูชื่อดังในประเทศไทย หลายๆท่าน ได้ออกมาทำนายว่า เนื่องจากเป็นวันพระใหญ่ และตรงกับวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 โดยในวันนี้ ราหูอมจันทร์ แบบเต็มดวง สามารถเห็นได้ที่ประเทศไทยด้วย ที่สำคัญจะเกิดขึ้นช่วงเวลากลางคืน หรือจะเรียกอีกอย่างว่า ราหูซ้อนราหู ซึ่งถือว่าเป็นวันที่แรงมาก โดยเชื่อกันว่า จะส่งผลต่อผู้ที่เกิดในราศีพฤษภ และ ราศีพิจิก เรื่องที่ต้องระมัดระวังมากๆคือการเกิดอุบัติเหตุและเรื่องของสุขภาพ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ แต่ผลจากราหูอมจันทร์ อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงได้ ส่วนวิธีการแก้เคล็ด ก็ทำได้ไม่ยาก แค่ระมัดระวังตัวมากขึ้น หรืออาจจะเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระ เพื่อเสริมสิริมงคล
ตำนานเกี่ยวกับ ราหูอมจันทร์
เมื่อพูดถึงความเชื่อไปแล้ว จึงอยากจะเผยเหตุที่มาของความเชื่อ โดยเผยกันว่า มีพระราหู พระจันทร์ และ พระอาทิตย์ นั้นเคยมีเรื่องบาดหมางใจกัน ครั้งเมื่อเทวดา กวนน้ำอมฤต แต่ก็พยายามไม่ให้อสูรได้ดื่ม ส่วนพระราหู ซึ่งนับเป็นอสูรอีกตระกูล ได้ปลอมตัวเป็นเทวดาเพื่อเข้าไปดื่มน้ำอมฤต ต่อมา พระจันทร์ และ พระอาทิตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทวดาทรงทราบจึงได้รายงานต่อพระนารายณ์ หลังจากนั้น พระนารายณ์ทรงกริ้ว และได้เอาจักรขว้างใส่พระราหูจนขาดออกเป็นสองท่อน ซึ่งเป็นที่มาของการที่พระราหู มีกายเพียงครึ่งท่อน แต่ตามตำนานได้เผยว่า พระราหูไม่ตายเหตุเพราะได้ดื่มน้ำอมฤตไปแล้ว ตั้งแต่นั้นมา พระราหู จึงตั้งตนเป็นศัตรูกับทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ นอกจากนี้ทางพระพุทธศาสนา ก็จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ราหูอมจันทร์เช่นเดียวกัน โดยเล่ากันมาว่า มีพี่น้อง 3 คน ซึ่งเกิดจากพ่อและแม่ เดียวกัน แต่หลังจากที่พ่อเสีย ทั้ง 3 คนก็ได้ออกมาทำบุญตักบาตร บุตรคนโต ได้ทำบุญที่มีข้าวในขันทอง ส่วนบุตรคนที่ 2 ได้ทำบุญที่มีข้าวในขันเงิน แต่บุตรคนเล็ก แย่งไม่ทัน จึงใช้กระบุงเล็กมาใส่ข้าวแทน ทำให้บุตรคนเล็กไม่ประทับใจพี่ชายมากนัก ครั้นเมื่อโตขึ้น พี่ชายคนโตและพี่ชายคนรอง ก็ได้ตำแหน่งดีๆไปหมด นอกจากนี้ คนโตยังได้อธิษฐาน ไปเป็นพระอาทิตย์ ขณะที่คนรอง อธิษฐานไปเป็นพระจันทร์ ส่วนน้องคนเล็ก ได้อธิษฐานไปว่าขอให้มีร่างกายใหญ่โตไปปิดบังแสงอาทิตย์และแสงพระจันทร์ จึงเป็นที่มาของพระราหู ตามความเชื่อของพระพุทธศาสนา
ราหูอมจันทร์กับเครื่องรางของขลัง
ถึงแม้พระราหู จะจัดอยู่ในอสูรหรือจากภาพวาดที่เคยเห็นมักจะเป็นหน้าแทตย์ คือ ยักษ์, อสูร, ผี อีกจำพวกหนึ่ง สีกายตามภาพวาดจะเป็นสีดำ และมีหน้าตาที่ดุร้าย หรือบางที่ก็จะเป็นสีเขียวบ้าง มีกายเพียงครึ่งท่อน แต่หลายๆพื้นที่ก็ยังมีการบูชา ราหูอมจันทร์เป็นเครื่องรางของขลัง เครื่องรางนำโชค เพราะเชื่อกันว่า ตามตำนานแล้ว พระราหูจะไม่ตาย เนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤตไปแล้ว ซึ่งเครื่องรางที่ออกมาให้บูชากันนั้นมีทั้งพระราหูอมจันทร์ และ ราหูอมอาทิตย์ด้วย ส่วนความเชื่อในการบูชาราหูเชื่อกันว่า จะช่วยในเรื่องของความคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า รวมไปถึงป้องกันภัยร้าย มนต์ดำต่างๆที่จะเข้ามา เมื่อต้องพบกับภัยอันตราย หรือความทุกข์ยากลำบาก เชื่อกันว่า เครื่องรางรูปพระราหูจะสามารถช่วยเหลือให้มนุษย์ผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ไม่ยาก