ประเทศไทยอุดมไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุที่มีคุณค่ามากมาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ ต่อไปนี้คือ 10 แหล่งทรัพยากรแร่ธาตุที่มีคุณค่าที่สุดของไทย พร้อมทั้งการนำไปใช้ประโยชน์และปริมาณสำรองที่เรามี
- แร่ดีบุก
- การนำไปใช้ประโยชน์: ผลิตภัณฑ์โลหะผสม เช่น บัดกรี น้ำประสานทอง และเครื่องเคลือบ
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 2.5 ล้านตัน (อันดับ 7 ของโลก)
- แร่สังกะสี
- การนำไปใช้ประโยชน์: เคลือบโลหะ ป้องกันการเกิดสนิม ผลิตแบตเตอรี่
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 1.5 ล้านตัน (อันดับ 12 ของโลก)
- แร่ทองแดง
- การนำไปใช้ประโยชน์: สายไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ท่อประปา
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 1 ล้านตัน (อันดับ 15 ของโลก)
- แร่พลวง
- การนำไปใช้ประโยชน์: ผลิตแบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์ ยา
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 800,000 ตัน (อันดับ 5 ของโลก)
- แร่เหล็ก
- การนำไปใช้ประโยชน์: ผลิตเหล็กกล้า ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและยานยนต์
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 700,000 ตัน (อันดับ 16 ของโลก)
- แร่ทองคำ
- การนำไปใช้ประโยชน์: เครื่องประดับ การลงทุน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 600,000 ตัน (อันดับ 14 ของโลก)
- แร่ยิปซัม
- การนำไปใช้ประโยชน์: ผลิตปูนปลาสเตอร์ ปูนซีเมนต์ กระดาษ
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 500,000 ตัน (อันดับ 10 ของโลก)
- แร่ฟลูออไรต์
- การนำไปใช้ประโยชน์: ผลิตกรดฟลูออริก สารเคลือบฟัน ยาฆ่าแมลง
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 400,000 ตัน (อันดับ 11 ของโลก)
- แร่บาไรต์
- การนำไปใช้ประโยชน์: สารเติมน้ำหนักในการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ผลิตสี
- ปริมาณสำรอง: ประมาณ 300,000 ตัน (อันดับ 13 ของโลก)
- แร่หินปูน
- การนำไปใช้ประโยชน์: ผลิตปูนซีเมนต์ ปูนขาว ปุ๋ย
- ปริมาณสำรอง: มีมากมายมหาศาล (อันดับ 1 ของโลก)
ประเทศไทยมีทรัพยากรแร่ธาตุที่มีคุณค่ามากมาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ การจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้อย่างยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าคนรุ่นต่อไปจะได้รับประโยชน์จากทรัพย์สมบัติอันมีค่าเหล่านี้